แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โสม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โสม แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

โสม-ตำนานแห่งยาอายุวัฒนะ

        
โสม – ตำนานแห่งยาอายุวัฒนะ
            เป็นที่ยอมรับกันว่าชาวจีนนั้นเด่นมากในเรื่องการเสาะหายะอายุวัฒนะ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ท่สุดที่เราสามารถค้นได้  ปรากฏว่าเมื่อสองพันกว่าปีก่อนจิ๋นซีฮ่องเต้ได้สร้างตำหนักลับ ๆ ขึ้นหลายแห่งเพื่อให้บรรดาหมอหลวง
ได้ใช้เป็นที่ผลิตยาอายุวัฒนะ
           สำหรับโสม  คนจีนถือเป็นยาวิเศษเนื่องจากตกผลึกเป็นรูปร่างของคนจึงใช้รักษาโรคได้สารพัดชนิด เป็นทั้งยาชูกำลัง เพิ่มความกระชุ่มกระชวย และเป็นยาอายุวัฒนะ แต่โบราณถือกันว่าเป็นสมุนไพรำหรับองค์จักรพรรดิและคนในราชวงศ์เท่านั้น  หากใครทำคุณประโยชน์แก่บ้านเมืองจักรพรรดิจึงจะประทานโสมให้เป็นบำเหน็จความชอบ  เพื่อให้เป็นยารักษายามเจ็บไข้   นับเป็นการโปรดเกล้า ฯ ให้ยืดอายุวิธีหนึ่ง  ดังนั้นบ้านไหนมีโสมก็เท่ากับว่าคนในบ้านนั้นจะมีอายุยืนยาวกว่าคนทั่วไป  ด้วยความเป็นมาเช่นนี้เอง  ความใผ่ฝันอันสูงสุดของชาวจันที่สืบทอดกันมากแต่โบราณก็คือจะต้องมีโสมติดบ้านเอาไว้เพื่อไว้ใช้ในยามเจ็บป่วย  เอาไว้เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในยามชรา  ด้วยเชื่อกันว่าโสมเป็นยาโป๊วชั้นยอด  ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรมาโสมจึงมีราคาแพงลิ่ว ๆ  ในกรุงปักกิ่งโสมชั้นดีเคยขายกันด้วยวิธีเอาทองคำมาแลกแบบน้ำหนักต่อน้ำหนักเลยทีเดียว  ส่วนโสมชั้นสูงสุดที่เรียกกันว่าโสมพันปีนั้นย่อมมีราคามากกว่า  ใครขุดหาได้ก็รวยกันทั้งชาติ ทุกวันนี้โสมยังมีราคาแพง  เมื่อ 15 ปีก่อน โสมคนหนักประมาณ 1  ตำลึงจีนหรือ 37.5  กรัม มีค่าราว 80,000 บาท ด้วยเหตุที่เชื่อว่าโสมเป็นยาอายุวัฒนะทำให้โสมมีราคาแพงและเป็นที่ต้องการอย่างมากของชนเชื้อสายจีน เกาหลี  ซึ่งเป็นคนจำนวนมากของประชากรโลก  ดังนั้นโสมจึงเป็นพืชเศรษฐกิจทำเงินอย่างหนึ่ง  ปัจจุบันกล่าวกันว่าโสมที่ขึ้นตามป่าเขาไม่มีแล้วโสมที่ซื้อขายกันส่วนใหญ่เป็นโสมที่ปลูกกันขึ้นเองในเกาหลี  จีน   และอเมริกา  โสมที่ขุดได้จากธรรมชาตินั้นหายากยิ่ง ทั้งยังไม่ต้องพูดถึงสนนราคาด้วยว่าจะเป็นเงินมหาศาลขนาดไหน หากใครมีไว้ในครอบครอง
          ความรู้เรื่องโสม
 โสมเป็นต้นไม้ในวงศ์อะราลิเอซี (Araliaceae)  อยู่ในวงศ์เดียวกับต้นเล็บครุฑ  และหนุมานประสานกาย
อยู่ในสกุลพาแนกซ์ (Panax)  ตรงกับภาษาลาตินว่าพานาเซีย (Panacea) แปลว่าสมุนไพรใช้บำบัดสารพัดโรค
               ต้นไม้ในสกุลนี้มีอยู่ 8ชนิดด้วยกัน แต่มีเพียง 2 ชนิดที่มีคุณค่าทางยา  นั่นคือโสมคน (Panax scinseng Nees,  Panax ginseng C.A.Meyer) กับโสมอเมริกา (Panax quinquefolium Linn.)
           โสมสองชนิดนี้มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก ส่วนโสมอื่น ๆ ไม่ปรากฏว่ามีตัวยาแต่อย่างใด
            โสมเกาหลี  (Panax ginseng C.A. Meyer)  เป็นพืชล้มลุก  มีลักษณะฉ่ำน้ำ ลำต้นสั้นพุ่งแทงดินขึ้นมาตรง ๆ ใบเรียงเป็นวง แต่ละใบแยกเป็นสามแฉก มีดอกเป็นช่อสีขาวคล้ายซี่ร่ม เช่นเดียวกับดอกผักชี  ช่อดอกจะแตกออกตรงง่ามของใบรวมสามใบที่มาบรรจบกัน มีผลสีแดง ผลหนึ่งจะมีเมล็ด 1-2 เมล็ด ชอบอากาศอบอุ่น มักขึ้นตอนเหนือของเส้นศูนย์สูตร รากเป็นง่ามมีกลิ่นหอม
               แต่เดิมชาวแมนจูเรียและชาวเกาหลีเวลาเสาะหาโสมจะใช้วิธีสังเกตโสมที่เกิดเองตามธรรมชาติจะขึ้นอยู่ใต้ต้นเคีย (Kia)  ซึ่งเป็นพืชในตระกูลเดียวกับต้นหลิน (Linden, Tilia sp.) หรือต้นพาโลว์เนีย  ต้นไม้สองชนิดนี้จะเกิดมาคู่กันตลอด  ถ้าพบต้นหนึ่งก็จะพบต้นไม้อีกต้นหนึ่งเสมอไป  นักล่าโสมจึงใช้ต้นเคียเป็นที่สังเกตในการหาโสม  การขุดจะขุดกันในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น  เมือได้รากโสมมาเขาจะใช้วิธีชีววิเคราะห์เพื่อพิสูจน์ว่ารากนั้นเป็นโสมจริง
หรือไม่  วิธีที่ว่านี้ก็คือให้คนสองคนเดินไปด้วยกัน  ถ้าเดินไปไกล 2-3 กม.แล้วคนที่อมรากไม้ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเมื่อย แปล
ว่ารากไม้นั้นเป็นโสมจริง  ส่วนคนที่ไม่ได้อมอะไรจะรู้สึกอ่อนแรงกว่า
              ปัจจุบันไม่มีโสมให้เสาะหาอีกแล้ว  เราใช้โสมปลูกทั้งสิ้น แต่โสมที่จะใช้เป็นยาต้องมีอายุอย่างน้อย 4-6 ปี  ดินที่
ใช้ปลูกจะต้องไม่เคยใช้ปลูกโสมมาก่อนในระยะ 10-15 ปีที่ผ่านมาก การปลูกโสมต้องปลูกในที่ร่ม ทำหลังคามุงแดดบังแสงตามอายุของโสม  ในช่วงฤดูหนาวลำต้นบนดินจะเหี่ยวเฉาไปส่วนรากยังอยู่   ต่อเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิโสมจึงผลิต้นใบใหม่ออกมา  รากโสมก็โตขึ้นเรื่อย ๆ จากการศึกษาพบว่าเมื่อโสมมีอายุ 6 ปีจึงจะมีคุณค่าทางยาสูงสุด  เมื่อขุดรากโสมขึ้น
มาจะคัดรากที่สมบูรณ์เอาไว้  ส่วนที่มีรูปร่างไม่ดีหรือเล็กเกินขนาดจะนำไปขายสดเพื่อรับประทานแบบหัวผักกาดหรือนำไปขายคั้นน้ำโสมมาดื่ม
              โสมเกาหลีในท้องตลาดมี 2 ชนิดคือโสมขาวกับโสมแดง  โสมแดง คือโสมที่ผ่านการอบไอน้ำเพื่อทำลายเอนไซม์
เชื้อรา  เชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้โสมชนิดนี้มีฤทธิ์ในทางยามากกว่า  จึงมีราคาแพงกว่าโสมขาว
          โสมอเมริกา  (Panax  quinquefolium L.)  เดิมเป็นไม้ป่าทั่วไป  ขึ้นในควิเบก  มานิโตบา ในแคนาดาและในแคโรไลนาเหนือ  จอร์เจียเทนเนสซีซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา  ปัจจุบันมีการขุดพันธุ์มาปลูกกันแพร่หลายและมีตลาดแหล่งใหญ่คือ  ฮ่องกง
           โสมจีน  (Panax notoginseng Burk)    เป็นโสมที่ปลูกในประเทศจีน  มณฑลยูนนาน  กวางสี และบางส่วนของเวียดนาม  ใช้ประกอบในยาจีน มีคุณสมบัติห้ามเลือด  แก้ฟกช้ำและบวม
           โสมญี่ปุ่น (Panax pseudoginseng Wall.  Subsp.  Subsp. Japonicus Hara) เป็นยาแก้ปวดเกร็งในท้อง   ส่วนโสมหิมาลัย (Panax pseudoginseng subsp. Hialacius Hara) และโสมจูจื่อเซิน (Panax pseudoginseng var. major Burk)  ก็เป็นสมุนไพรในตำราจีนเช่นกัน   ยังมีโสมชนิดอื่นอีกที่อยู่ในตำราจีนซึ่งไม่มีผลเป็นยากระตุ้นความกระชุ่มกระชวยเช่นเดียวกับโสมเกาหลีและโสมอเมริกา
           โสมคุณภาพดี
                การปลูกโสมในเกาหลีทำกันมาช้านานตั้งแต่สมัยโคราล (Karal Age)  โสมที่ปลูกเรียกกันว่าเป็นโสมเหลือง
โสมที่มีคุณภาพดีที่สุดมีชื่อว่า “ไคโรนินจิน”   ปลูกกันมากที่เมืองไคโจ  การเพาะเมล็ดโสมกินเวลาราวปีครี่งกว่าจะได้ต้นกล้าไปปลูกเป็นต้นใหม่  เมื่ออายุ 3 ปีจะมีดอกและลูกสีแดง  ลูกโสมที่แก่จัดกินได้มีรสหอมชื่นใจเช่นเดียวกับรากและจะเก็บเกี่ยวเมื่อมีอายุได้  6  ปี
              การกำหนดมาตรฐานของโสมจริง ๆ แล้วยังไม่มีมาตรฐานแน่นอนแต่ราคาของโสมขึ้นอยู่กับสี อายุ ขนาดและ
รูปร่าง  แต่ปัจจุบันนี้ประเทศเกาหลีพยายามกำหนดมาตรฐานของอุตสาหกรรมโสม  ใช้ตรวจชาโสมและสารสกัดจากโสม
ก่อนนำไปขายในตลาดยุโรปและอเมริกา